Chapter I : Vacuity






Title : Chapter 01 Vacuity

Pairing : Hyunbin x yongguk

Rated : PG

Genre : Omegaverse, Romantic

อ่านบทนำกันก่อนนะคะ : ) >> Prologue <<

----------------------------------------------------------







เราไม่ไว้ใจใครอีกแล้วนอกจากคนของตระกูลคัง

ผมรู้ว่ามันทำความเข้าใจได้ยาก...แต่การแต่งงานนี้จะเป็นผลดีต่อทั้งสองตระกูล

หรือถ้าคุณจะคิดว่าไม่...ยังไงผมก็อยากให้คุณเห็นแก่บุญคุณที่มีต่อกัน...จะถือว่านี่เป็นการขอร้องก็ได้


เขายังจำประโยคเหล่านั้นได้ดี หนึ่งเดือนก่อนที่การมาของคนจากตระกูลควอนนั้นเปลี่ยนชีวิตของคิมยงกุกจากหน้ามือเป็นหลังมือ

จำสีหน้าเคร่งเครียดและกังวลของพ่อได้อย่างแจ่มชัด

จำน้ำเสียงที่พ่อใช้พูดคุยกับเขาหลังจากเรียกเขาไปคุยเรื่องการแต่งงานครั้งนี้

น้ำเสียงที่ทั้งกังวล และรู้สึกผิดต่อเขาอย่างท้วมท้น

เขาจึงไม่ลังเลที่จะตกลงรับหน้าที่นั้นด้วยความเต็มใจ

และสัญญากับตัวเองตั้งแต่นั้นว่าจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด


แม้จะเป็นการแต่งงานที่ถูกจัดขึ้นโดยปราศจากความรู้สึกใดๆ แต่ธรรมเนียมก็ต้องเป็นธรรมเนียม

เราทั้งคู่ไม่อาจปฏิเสธการร่วมเรียงเคียงหมอนในคืนเข้าหอคืนแรกได้

ยอมรับว่าก่อนหน้านั้นเขาค่อนข้างคิดไม่ตก หากแต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยความเงียบงัน

เราไม่ได้พูดอะไรกันแม้แต่คำเดียวหลังจากอาบน้ำแต่งตัวกระทั่งทิ้งตัวนอนลงบนเตียงในแบบที่ต่างคนต่างก็นอนหันหลังให้กันอยู่คนละฟากฝั่ง

ปิดไฟได้ไหม?”

ครับ

นั่นเป็นบทสนทนาทั้งหมดของเรา

คำถามสั้นๆของฮยอนบิน กับคำตอบรับแผ่วเบาของยงกุก

และทันทีที่ห้องทั้งห้องมืดสนิท...เราก็ปล่อยให้ตัวเองจมไปกับความคิดของแต่ละคน

สถานการณ์ระหว่างเราทำให้คิมยงกุกนึกถึงคู่แต่งงานที่ใกล้จะหย่ากันเข้าไปทุกที กลับกันตรงที่นี่คือวันแรกของการแต่งงาน

แม้จะนอนอยู่ข้างๆกันในระยะห่างเพียงแค่เอื้อมมือแตะกันได้...ใกล้กระทั่งแม้นอนหันหลังให้กัน เขายังได้กลิ่นของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

กลิ่นฝน

กลิ่นประจำตัวอัลฟ่าของควอนฮยอนบิน

ทว่าเช่นนั้น...ยงกุกกลับรู้สึกได้ถึงความว่างเปล่าขนาดมหาศาลระหว่างเราสองคน

แสนว่างเปล่า...

เขานิยามความรู้สึกของการแต่งงานคืนแรกเอาไว้แบบนั้น




.
.
.
.
.

ควอนฮยอนบินไม่เคยรู้จักความรู้สึกแบบนี้มาก่อนในชีวิต29ปีที่ผ่านมา

เป็นความรู้สึกที่เขาไม่สามารถอธิบายออกมาได้ง่ายๆ

เพราะแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจนักว่ามันคือความรู้สึกแบบไหน

เหมือนกับทุกอย่างมันว่างเปล่าไปเสียหมด...อาจเพราะเราก็แค่คนแปลกหน้าสองคนที่ถูกจับให้มาอยู่ด้วยกัน

ปราศจากความรู้สึกใดๆ ทั้งความยินดี ความชอบพอ ความรังเกียจ หรือความไม่พอใจ

เพราะแบบนั้น หากจะเรียกว่าว่างเปล่าก็คงไม่ผิดเสียทีเดียว

และนี่คงเป็นคืนที่น่าอึดอัดและประหลาดที่สุดคืนหนึ่งของควอนฮยอนบินเลยก็ว่าได้

กระทั่งผ่านไปนานหลายชั่วโมงที่เขานอนลืมตาในความมืด ในขณะที่รู้สึกว่าคนข้างกายน่าจะหลับไปแล้ว

ท่ามกลางความเงียบงันเหล่านั้นซึ่งมีเพียงเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอให้ได้ยิน

เมื่อหลุดจากความคิดแสนยุ่งเหยิงของตัวเองไปแล้ว เขากลับได้กลิ่นดอกพีชที่รวยรินอยู่ใกล้ๆ

กลิ่นประจำตัวโอเมก้าของยงกุก

หากแต่กลิ่นของคนข้างกายไม่ได้ให้ความรู้สึกเย้ายวนแบบโอเมก้าคนอื่นๆที่ฮยอนบินเคยพบเจอ

กลิ่นนั้นหอมหวาน...

บริสุทธิ์และอบอุ่นอย่างน่าประหลาด

รู้ตัวอีกที่เขาก็เพลิดเพลินกับกลิ่นดอกพีชของคนข้างๆจนกระทั่งเวลาล่วงเลยถึงตีสามเข้าไปเสียแล้ว

อย่างไรก็ตาม

คืนแรกของการแต่งงานที่ให้ความรู้สึกเหมือนจะน่าอึดอัดของเรา

สำหรับฮยอนบิน ก็ไม่ได้แย่เสียทีเดียว




.
.
.
.
.




แยกห้องนอน? จริงจัง?”

ก็ไม่อยากให้เขาอึดอัด

ฮยอนบินตอบกลับเสียงเรียบ ก่อนจะหยิบขนมที่พี่ชายหิ้วมาฝากถึงห้องทำงานเข้าปาก

เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องสมเหตุสมผลเสียด้วยซ้ำไปที่เขากับยงกุกจะแยกห้องนอนกัน

ไม่รู้ว่าทำไมญาติผู้พี่อย่างฮวังมินฮยอนจะต้องทำหน้าประหลาดแบบนั้น

เขากับยงกุกไม่ใช่คู่รักตั้งแต่สมัยมัธยมที่รักกันปานจะกลืนกินพร้อมวาดฝันแต่งงานแสนหวานสร้างครอบครัวน่ารักด้วยกันอะไรแบบนั้นเหมือนมินฮยอนกับคนรักเสียหน่อย

ก็นะ...ดีกับเขาให้มากๆเข้าล่ะ อุตส่าห์ยอมแต่งงานด้วย ถ้าไม่ได้เขา แกลำบากแน่ฮยอนบิน

รู้หรอกน่ะ

มีไม่กี่คนในตระกูลควอนที่จะรู้เหตุผลที่แท้จริงของการแต่งงานในครั้งนี้

ควอนฮยอนบินที่ก่อนหน้าถูกกดดันอย่างหนักจากการที่ควอนยองดึกผู้เป็นอา พยายามยัดเยียดให้เขาแต่งงานกับลูกสาวประธานจอง

วิธีเดียวที่จะสลัดพ้นจากแรงกดดันนั้นก็มีแค่ต้องชิงแต่งงานกับคนอื่นเสีย

และด้วยฐานะภรรยานายใหญ่ตระกูลควอนไม่ใช่ใครจะมาเป็นสุ่มสี่สุ่มห้าได้


ทันทีที่ป้าของเขาเสนอให้แต่งงานกับคนของตระกูลคังที่ไว้ใจได้อย่างแน่นอน เพราะบุญคุณที่ผูกกันมาก่อนตั้งแต่รุ่นพ่อเขา


และบังเอิญอย่างโชคดีที่ตระกูลคังมีลูกชายคนหนึ่งเป็นโอเมก้า


เขาจึงตอบตกลงอย่างไม่ลังเล

อืม...อย่าว่างั้นงี้เลยะ พี่สงสัยอ่ะ

ฮยอนบินเลิกคิ้ว เพื่อรอฟังประโยคต่อไปของคนตรงข้าม

เจ้าหญิงบนหอคอยน่ะ...หยิ่งจริงแบบที่คนเขาว่ามั้ย?”

อัลฟ่าหนุ่มระเบิดหัวเราะหลังจบประโยคนั้นของลูกพี่ลูกน้อง

หยิ่งหรอ? คิมยงกุกคนนั้นน่ะนะ?

ให้ตาย คนปากมากพวกนั้นไม่รู้อะไรเลยจริงๆ

ไว้วันหลังไปกินข้าวที่บ้านสิ เดี๋ยวก็รู้

บอกปากเปล่าไป ฮวังมินฮยอนจะไปเชื่อสนิทได้อย่างไร

แม้แต่ตัวเขาเอง หากไม่แอบสังเกตในบางครั้งก็คงไม่รับรู้ว่าคุณหนูคนเล็กตระกูลคังน่ะ...

...อันที่จริงทั้งแสนดีและน่ารักขนาดไหน

ถ้าจะให้ยกตัวอย่าง

ก็คงแสนดีในขนาดที่ แม่บ้านทำน้ำส้มทั้งเหยือกหกใส่ยังไม่โกรธ แถมยังบอกให้พักผ่อนเยอะๆจะได้ไม่อ่อนแรงแบบนี้

ตระกูลคังเลี้ยงมายังไงก็ไม่รู้นั่น

ทั้งตั้งแต่มียงกุกเข้ามา อะไรต่างๆในบ้านก็เป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้นไม่น้อย

อืม...แล้วคงคิดว่าเขาไม่รู้ล่ะมั้ง

ว่าเสื้อตัวโปรดที่เขาเก็บเอาไว้ในตู้เพราะกระดุมหลุดนั่นน่ะ...เจ้าตัวเย็บซ่อมมันกลับให้เหมือนเดิมเรียบร้อยแล้ว

กำลังคิดอยู่เหมือนกันว่าพรุ่งนี้จะใส่ให้เห็นดีไหม

แต่พอนึกได้ว่าคงไม่ได้รับปฏิกริยาตอบกลับอื่นใดนอกเสียจากใบหน้านิ่งๆกับคำว่าอรุณสวัสดิ์ครับคุณควอนฮยอนบินก็รู้สึกเซ็งขึ้นมาหน่อยๆ



ทว่าเอาเข้าจริง


รวมๆแล้วชีวิตแต่งงานสองสัปดาห์ที่ผ่านมามันก้ไม่ได้งว่างเปล่าเกินไปอย่างที่เคยคิดเอาไว้เท่าไหร่นัก



T
B
C.

ทุกๆอย่างก็เริ่มต้นจากความว่างเปล่ากันทั้งนั้นล่ะเนอะ : )

ยังคงพูดคุยกันได้ที่เก่าที่เดิมที่ #PBITR นะคะ

ขอบคุณสำหรับฟีดแบคน่ารักๆในตอนที่ผ่านมาด้วยค่ะ ดีใจมากจริงๆที่มีคนชอบอะไรเหมือนๆเรา ;-;

เจอกันแชปหน้ากับความสัมพันธ์ที่จะพัฒนาขึ้นอีกนิด : )

เริ้บ

m i s s c o z y


















































































ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Content

Prologue

Chapter IV : Start it slow